รอบรู้เรื่องสมุนไพรกับ ดร.สาโรช
หมาก
หมาก ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ถือว่าการกินหมากเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาวเอเชีย บางประเทศใช้เป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง สารสำคัญในผลหมากมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย ใช้ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด สามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย และกรดจากกระเพาะจึงถือว่าเป็นยาบำรุงธาตุ ซึ่งมีฤทธิ์ต่อจิตประสาท และลดอาการซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลและคุณสมบัติอีกประการหนึ่งคือ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และชะลอการทำงานของเอนไซม์อีลาสเตส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างดี จึงนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ครีมยกกระชับผิวหน้าผสมสมุนไพร ดร.สาโรช (Herbal Face Lift Cream) ที่จะทำให้ผิวคุณกระชับ เต่งตึง แลดูเนียนเรียบ
เทียนกิ่ง (HENNA)
เทียนกิ่งหรือเฮนน่า ถือเป็นเครื่องสำอางสมุนไพรที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของโลก ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยนำมาแต่งสีเล็บ ทาสีฝ่ามือ ส้นเท้า และใช้ย้อมผม จะทำให้ได้สีผมไปทางสีแดง หรือสีแดงปนส้ม ซึ่งประเทศแรกที่นำมาย้อมผม คือ ชาวอียิปต์ นอกจากนี้ดอกของเทียนกิ่งยังมีกลิ่นหอมรื่นคล้ายกุหลาบหนู จึงใช้ทำน้ำหอมได้ อีกด้วย เทียนกิ่งเป็นไม้พุ่ม ในบ้านเรามี 2 ชนิด คือ เทียนกิ่งดอกขาว และเทียนกิ่งดอกแดง ในตำรายาไทยได้บอกสรรพคุณของเทียนกิ่งไว้หลายอย่างคือ ใบ ใช้แก้อาการเจ็บคอ เล็บขบ ทารักษาแผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก แผลฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบ ราก ใช้ขับประจำเดือน ขับปัสสาวะ รักษาตาเจ็บ เปลือก ใช้ขับน้ำเหลืองเสียในโรคเรื้อน ดอก แก้ปวดศีรษะ ขับประจำเดือน ในเทียนกิ่งมีสารที่ออกฤทธิ์ทั้งในการเป็นสีและยา คือ Lawsone ซึ่งเป็นสารสำคัญในการย้อมผมที่นับว่าปลอดภัย และช่วยปกป้องผมจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ลอนา แฮร์โทนิค และ ลอนา แฮร์โคท ในชุดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ดร.สาโรชนอกจากจะมีส่วนผสมจากสมุนไพรอันทรงคุณค่านานาชนิดแล้ว ยังมีส่วนผสมจากสมุนไพรเทียนกิ่ง ซึ่งจะช่วยบำรุงสุขภาพผม ทำให้เส้นผมและรากผมแข็งแรง ไม่ร่วง ไม่แตกปลาย พร้อมทั้งเพิ่มการเจริญงอกงามของเซลล์รากผม ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้ดี หากใช้เป็นประจำสุขภาพผมจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนครับ
หม่อน
หม่อนเป็นพืชที่มีประโยชน์เรียกได้ว่าแทบจะทุกส่วนของลำต้นเลยทีเดียวครับ เมื่อก่อนเราจะนำใบหม่อนมาใช้เลี้ยงตัวไหมแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วนำใยจากตัวหนอนไหมมาใช้ทอเป็นผ้าไหม แต่เดี๋ยวนี้กระแสนิยมดื่มชามาแรง ทำให้ใบหม่อนแปรรูปเป็นชาใบหม่อน ชงดื่มช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต โดยไม่ต้องดื่มชาราคาแพงก็ได้ประโยชน์เช่นกัน ยังมีส่วนอื่นๆ ของหม่อนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ อาทิ ลูกหม่อนหรือผลหม่อน ที่ฟังดูไม่ค่อยมีคุณค่าเท่าใด แต่ถ้าพูดเป็นภาษาอังกฤษว่ามัลเบอร์รี่ (Mulberry) ฟังดูมีคุณค่าเพิ่มขึ้น เหมือนกับคุณค่าจริงๆ ที่แฝงอยู่ในผลซึ่งให้รสหวานอมเปรี้ยว มักนำมาผลิตเป็นไวท์และน้ำผลไม้ มีสรรพคุณใช้รักษาโรค และนำมาผลิตยาแผนปัจจุบันเป็นน้ำเชื่อม ช่วยขับเสมหะได้ และบำรุงไขข้อ บำรุงหัวใจ บำรุงผมให้ดกดำ กิ่ง ใช้ต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี แก้อาการปวดกล้ามเนื้อ และอาการหดเกร็งของแขนขา ช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น รากหม่อน ช่วยในการขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต แก้ไอ และรากหม่อนยังมีสารสำคัญหลายชนิด ที่สกัดได้แล้วนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น สารสกัดนี้จะยับยั้งการสร้างเมลานินของผิว โดยสารสกัดจากกิ่ง ใบ เปลือกราก ยังช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสในขบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนัง จึงช่วยลดความหมองคล้ำของผิว ได้เช่นเดียวกับชะเอมเทศ และปอฝ้าย เราจึงนำมาเสริมเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งพลัส ที่รับรองว่าใช้แล้วผิวไม่หมองคล้ำแน่นอนครับ
ใบพลูสด แก้โรคลมพิษ
ลมพิษพบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่มักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มหนุ่มสาวมากกว่าเด็ก อาการของลมพิษจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากสัมผัส สูดดม กิน (ฝุ่น พิษของผักบุ้ง อาหารทะเล) เมื่อเกิดแล้วจะมีลักษณะเป็นวงแดง ขนาดและรูปร่างต่างๆ กัน ขึ้นบริเวณผิวหนัง เนื้อภายในวงจะนูน และสีซีดกว่าขอบเล็กน้อย รู้สึกคัน หากเกาจะทำให้ผื่นแดงลามมากขึ้น บางคนอาจมีอาการไข้ หนังตาบวม หายใจไม่สะดวกร่วมด้วย มักเป็นอยู่ 3-4 ชั่วโมง และหายไปเอง จากนั้นอาจเกิดขึ้นได้ใหม่เมื่อสัมผัสสิ่งที่แพ้อีก สำหรับสมุนไพรที่ช่วยรักษาอาการลมพิษ ได้แก่ ใบพลูสด ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยารักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย โดยมีวิธีรักษาคือ ให้นำใบพลูสดที่สมบูรณ์เต็มที่ 1-2 ใบมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับเหล้าขาว ทาบริเวณที่เป็นผื่น อาการจะค่อยๆ ทุเลาลง ทั้งนี้ห้ามใช้กับแผลเปิดเพราะจะทำให้แสบมากครับ
ข่อย
เป็นไม้ยืนต้นที่ใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน ในตำรายาไทยใช้ดับพิษในกระดูก ในเส้น และมะเร็ง รากเป็นยาบำรุงหัวใจ ใบใช้คั่วชงน้ำก่อนมีประจำเดือน จะรักษาอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนหรือใช้ดื่มชงแทนน้ำชา เมล็ดใช้เป็นยาอายุวัฒนะช่วยให้เจริญอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เปลือกและเนื้อไม้ใช้รักษาโรคพยาธิ โรคผิวหนัง โรคเรื้อน ใช้ต้มกับเกลืออมรักษารำมะนาด แก้โรคปวดฟัน รักษาฟันให้แข็งแรง แก้โรคฟัน สารสกัดจากข่อยและผงข่อยจะใช้เป็นผงขัดฟันให้ขาวสะอาด แต่คุณสามารถพบทางเลือกที่ง่ายกว่า ด้วยการใช้ยาสีฟันผสมสมุนไพร ดร.สาโรช เพราะมีส่วนผสมของข่อยอยู่เช่นกันครับ ที่สำคัญยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่มีสรรพคุณในการบำรุงรักษาสุขภาพฟันของคุณให้อยู่คู่กับคุณไปนานๆ ครับ
บัวหลวง
เป็นดอกไม้มงคลที่มีความโดดเด่น สีสันงดงาม นิยมใช้บูชาพระ มีความเชื่อว่าหากใครนำไปปลูกไว้จะทำให้เกิดความผูกพันในครอบครัว เปรียบเสมือนสายใยของบัวจะเด็ดอย่างไรก็ยากที่จะขาด อย่างนี้ต้องพิสูจน์ดูนะครับ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือคุณประโยชน์ที่หลากหลายของบัวหลวง คนสมัยก่อนจะนำดอกบัวมาต้มทานเพื่อบำรุงร่างกาย บำรุงครรภ์ให้คลอดง่าย บัวจะมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น เกสรช่วยบำรุงผิว ต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย เป็นสารที่ทำให้ผิวขาว ในเมล็ดบัวที่เรานำมาทำอาหารนอกจากให้โปรตีนสูงยังช่วยลดน้ำตาลในเลือด มีฤทธิ์ต่อต้านการกลายพันธุ์ของสารมะเร็งและต้านการเกิดพิษต่อตับ บำรุงร่างกาย ไขข้อ และใบบัวยังใช้รักษาอาการท้องเสีย ถ้าหากคุณรู้สึกอ่อนล้า ไอ และเป็นไข้ ลองหารากบัวมาต้มรับประทาน จะช่วยได้มากทีเดียวครับ จากคุณค่าที่พบได้ทุกส่วนของบัวหลวง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะนำสมุนไพรธรรมชาติบำบัดนี้ผลิตเป็นยาเพื่อช่วยบำรุงโลหิตให้ร่างกายของคุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นครับ
ขิง
“น้ำขิง” เป็นสุดยอดสมุนไพรอย่างหนึ่ง ที่มีสรรพคุณในทางแก้โรคท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยในการย่อยอาหาร ขับลมในกระเพาะ และยังเป็นสมุนไพรที่ทำให้เจริญอาหารอีกด้วย เรียกว่าเป็นยาสมุนไพรที่วิเศษจริงๆ ครับ ขิงที่ว่านี้เราสามารถนำมาดัดแปลงและปรับแต่งเป็นน้ำสมุนไพร เพื่อง่ายต่อการรับประทานได้ดังนี้ครับ ส่วนผสมได้แก่ ขิงแก่ล้างสะอาด น้ำสะอาด น้ำตาลทรายแดง เกลือ วิธีทำคือ นำขิงแก่มาล้างให้สะอาด แล้วทุบพอแตก เสร็จแล้วนำไปใส่หม้อต้มที่ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ ต้มขิงให้เดือด แล้วค่อยๆ ลดไฟ เคี่ยวให้นานจนขิงละลายน้ำ (สีน้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อน) ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงยกลงได้ จากนั้นให้ผสมเกลือเล็กน้อยตามด้วยน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน ถ้าต้องการดับกระหายคลายร้อน ให้ใส่น้ำแข็งลงไปเพียงเท่านี้ก็ได้น้ำขิงที่เย็นชื่นใจแล้วครับ
มะคำดีควาย
มะคำดีควาย เป็นไม้ที่ขึ้นได้ทั่วไปในบริเวณป่าเบญจพรรณ โดยมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ภาคกลางเรียกมะคำดีควายหรือประคำดีควาย ภาคเหนือเรียกมะซักหรือส้มป่อยเทศ เป็นต้น มะคำดีควายถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณสามารถนำมาใช้เป็นยาได้หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นเปลือก ใบ เมล็ด และที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุดคือ ผล มีรูปทรงกลม สีดำ นำมาปรุงเป็นยาใช้แก้ไข้ ดับพิษร้อนใน และแก้หืดหอบ นอกจากนี้คนโบราณยังใช้ทำเป็นยาใส่ผมแก้รังแค แก้คันศีรษะ แก้ชันนะตุ และแก้ผมร่วง ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งจากแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน โดยมีวิธีการใช้ง่ายๆ เพียงนำผลคำดีควาย 5 ผล ทุบพอแตก ต้มกับน้ำ 1 ถ้วย (250 ซีซี) นำน้ำสมุนไพรที่เย็นแล้วมาทาหนังศีรษะบริเวณที่เป็น วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือจะนำมาใช้สระผมก็ได้ ทั้งนี้เพราะผลมะคำดีควายอุดมไปด้วยสารซาโปนินซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายสบู่โดยสามารถให้ฟองได้ดี ทำให้มะคำดีควายได้รับฉายาว่าเป็น สบู่ธรรมชาติ ภาษาอังกฤษเรียกว่า โซปเบอร์รี่ (Soap berry) หรือโซปนัท (Soap nut) มีสรรพคุณในการทำความสะอาดผิวสูงและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อราอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลากเกลื้อนและปัญหาผิวได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงได้เลือกสรรมาเป็นส่วนผสมคุณภาพในผลิตภัณฑ์ ดร.สาโรช หลายชนิด เช่น เจลล้างหน้า ครีมขัดผิวหน้าและผิวกาย โรลออนสมุนไพร ฯลฯ เพื่อสุขภาพอนามัยของผิวที่ดีสำหรับทุกคน
กานพลู
นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง เป็นไม้ยืนต้น มีใบหนาเป็นมันเมื่อเอาใบมาส่องกับแสงแดดจะเห็นเป็นจุดน้ำมันอยู่ทั่วไป ออกดอกเป็นช่อขนาดเล็ก สีแดงอมชมพู กานพลูแห้งจะใช้เป็นเครื่องเทศ ช่วยแต่งกลิ่น รสอาหาร ซึ่งเมื่อนำมาทำยาจะใช้ดอกแห้งที่ยังไม่ได้สกัดเอาน้ำมันออก ต้องเก็บดอกในช่วงที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง คือในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และน้ำมันหอมระเหยในดอกนี้เองจะประกอบด้วยสาระสำคัญหลายชนิด ที่ช่วยในการขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ เมื่อเด็กอ่อนมีอาการปวดท้อง ให้เอาดอกกานพลูแห้ง 1-2 ดอก ไปแช่เอาไว้ในกระติกน้ำร้อน ที่ใช้ชงนมให้เด็กอ่อน จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ เนื่องจากกานพลูมีสาร Eugenol จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง เมื่อนำมาสกัดแล้วจะใช้ในการขับน้ำดี ขับพยาธิ และสามารถฆ่าแมลงได้ ใช้เป็นยาชาแก้ปวดฟัน เวลารักษาอาการปวดฟันให้นำสำลีพันไม้จิ้มฟัน ชุบน้ำมันกานพลูทาบริเวณเหงือกและจิ้มลงไปในรูฟันที่ปวดก็จะบรรเทาอาการดัง กล่าวได้
เหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอ มิใช่เหงือกของปลาหมอที่แหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำหรอกนะครับ แต่เป็นพืชสมุนไพรประเภทล้มลุก ต้นสีน้ำเงินอมม่วง ใบหนาสีเขียวเข้ม และที่มาของนามว่าเหงือกปลาหมอก็เพราะมีหนามแหลมคมที่หยักคล้ายเหงือกปลาหมอ จริงๆ ส่วนต่างๆ ของเหงือกปลาหมอไม่ว่าจะเป็นราก ต้น ใบ ฝัก และเมล็ด ล้วนมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โรคไต ขัดเบา ปวดหลัง ปวดเอว ให้ลองนำเอาส่วนที่เป็นลำต้นนำมาทั้งใบและราก ล้างให้สะอาด สับเป็นท่อน นำไปตากแห้ง หรือจะใช้แบบสดก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องนำไปต้ม แล้วกรองนำเอาเฉพาะน้ำมาดื่มเท่านั้นครับ ที่เด็ดไปกว่านั้นคือเป็นยาอายุวัฒนะช่วยให้เจริญอายุ และมีสติปัญญาดี ง่ายๆ ด้วยการนำส่วนต้นมาตำผสมกับพริกไทย ในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 เคล้าน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน หรือตำเป็นผงละลายน้ำผึ้งรับประทานก็ได้ ตามแต่ใจชอบเลยครับ
ตะโก
ตะโก หรือตะโกนา หลายท่านรู้จักกันดีว่าเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่นิยมนำมาแต่งเป็นไม้ดัดเพื่อ ความสวยงาม เนื่องจากมีลักษณะที่ทนต่อสภาพแวดล้อม ง่ายต่อการปลูกเลี้ยง และบำรุงรักษา แต่นั่นถือว่าเป็นรูปลักษณ์ภายนอกครับ ขอบอกว่าตะโกมีดีกว่านั้น เริ่มกันที่ผลอ่อนซึ่งมีรสฝาดที่ชื่อ แทนนิน อยู่สูง จึงนำมาใช้ในการย้อมผ้าได้ดี เพราะทำให้สีติดเนื้อผ้าแน่นและทนทาน ส่วนผลสุกนั้นสามารถนำมากินได้ แต่รสออกจะฝาดและเฝื่อนคออยู่สักหน่อย และที่ถือว่าสุดยอดก็คือความเป็นยาอายุวัฒนะ หรือยาที่ทำให้อายุยืนยาวนั่นเอง ด้วยคุณสมบัติในด้านยาสมุนไพรที่ช่วยแก้ท้องร่วง ตกเลือด แก้มวนท้อง ขับพยาธิ แก้ฝีเน่าเปื่อย รวมทั้งเปลือกต้นตะโกสามารถใช้ต้มกับเกลืออมแก้รำมะนาด แก้ปวดฟัน ทำให้ฟันทนทาน ส่วนเปลือกผลเผาเป็นถ่านแช่น้ำกินช่วยขับระดูขาว ขับปัสสาวะ รากต้นตะโกนำมาต้มน้ำกินแก้โรคเหน็บชา โรคกระษัย ไตพิการ น้ำเหลืองเสีย แก้ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร แก้ร้อนในได้ดี ที่สำคัญตะโกนับว่าเป็นสุดยอดของยาบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะท่านสุภาพบุรุษ เพราะน้ำต้มเปลือกและเนื้อไม้ตะโก มีสรรพคุณแก้โรคกามตายด้าน กระตุ้นร่างกายให้สดชื่นแข็งแรง บำรุงกำลัง บำรุงธาตุอีกด้วยครับ สมัยก่อนชาวบ้านจะใช้เปลือกตะโก ผสมเปลือกต้นทิ้งถ่อน หัวแห้วหมู เมล็ดข่อย เม็ดพริกไทยแห้ง เถาบอระเพ็ดอย่างละเท่ากันดองเหล้ากิน หรือต้มกิน เพื่อบำรุงสุขภาพ จะเห็นได้ว่าคนสมัยก่อนนั้นแข็งแรงและมีอายุยืนยาว ถ้าใครสนใจก็ลองไปร้านยาสมุนไพรหาซื้อมาลองต้มกินกันได้ครับ แต่ถ้าไม่มีเวลาก็อยากจะแนะนำยาสมุนไพรไทยสำหรับบำรุงร่างกาย ตำรับเฉพาะของ ดร.สาโรช ที่มีส่วนประกอบของตะโกและสมุนไพรที่ทรงคุณค่ารวม 30 กว่าชนิด บรรจุในแคปซูลทำให้รับประทานง่าย สะดวกต่อการพกพาและมีคุณค่าต่อสุขภาพร่างกายสูงครับ
สะระแหน่
สะระแหน่ หรือภาษาเหนือเรียกกันว่าหอมด่วน หอมเตือน ส่วนภาคใต้จะเรียกว่ามักเงาะ สะแน่ หรือที่คนกรุงเรียกเป็นภาษาฝรั่งว่า มิ้นต์ เรานิยมนำมาใช้ปรุงอาหารประเภทยำ ลาบ พล่า ต้มยำ หรืออาหารที่มีรสจัด และช่วยปรุงแต่งกลิ่นให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในด้านสมุนไพรไทยที่ช่วยรักษาโรคอีกด้วย โดยใช้เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ ขับลม ขับเหงื่อ รักษาอาการหวัดได้ และยังสามารถแก้อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ หากนำน้ำที่คั้นจากต้น และใบมาใช้ดื่มก็จะช่วยขับลมในกระเพาะได้ หรือใครจะกินสดๆ เพื่อดับกลิ่นปากก็ยังได้ นอกจากนี้การบริโภคสะระแหน่ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง โล่งคอ ป้องกันไข้หวัด บำรุงสายตา และช่วยให้หัวใจแข็งแรง หรือใครที่มีอาการปวดศีรษะ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น ก็ให้ดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่ 5 กรัม กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้อาการดังกล่าวทุเลาและหายไปได้ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาอาการบิด ท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด ส่วนการแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ทำได้โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียดแล้วพอกบริเวณที่โดนกัด ในส่วนใบและลำต้นพบน้ำมันหอมระเหยซึ่งเมื่อนำไปสกัดจะได้น้ำมันเมนธอล มีรสเย็น กลิ่นหอมสดชื่น ด้วยสรรพคุณอันหลากหลายของสะระแหน่หรือมิ้นต์นี้ เราจึงนำมาเป็นส่วนผสมในยาสีฟันสมุนไพร ดร.สาโรช ซึ่งจะช่วยให้ปากสะอาด มีกลิ่นหอม ลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้อย่างดีครับ
มะนาว
“มะนาว” แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอกับรสชาติที่เปรี้ยวจนเข็ดฟันแล้วใช่ไหมครับ หลังจากเติมความเปรี้ยวใส่ลงในจานอาหารจานโปรดแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งเปลือกนะครับ ลองนำสร้อยเงิน หรือแหวนทองที่คุณใส่จนดำ มาแช่ไว้สักครู่แล้วขัดเบาๆ ด้วยเปลือกมะนาวสักพัก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด คุณก็จะได้พบกับความเงางามตามสภาพเดิมของเครื่องประดับชิ้นนั้นครับ นอกจากเครื่องประดับแล้ว หากคุณมีรอยสากด้านของข้อศอกหรือหัวเข่าเกิดขึ้นล่ะก็ สามารถนำเปลือกมะนาวมาช่วยเนรมิตผิวให้นุ่มได้ โดยนำมาขัดเบาๆ ตรงบริเวณที่ด้าน แต่วิธีนี้อาจช้าไปนิด แถมไม่สะดวกอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ข้อศอกที่สากด้านกลับมาเนียนนุ่มดังเดิม ลองทาโลชั่นบำรุงผิว ดร.สาโ รช บริเวณข้อศอกที่สากด้าน และทั่วผิวกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น แล้วยังมีกลิ่นหอม
ของดีราคาไม่แพง สมุนไพรไทยมีประโยชน์มากมาย อีกมากเดี๋ยววันหลังผมจะเข้ามา update ข้อมูลข่าวสาร
สินค้ากับประโยช์สมุนไพรให้ฟังใหม่นะครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
แด่ความสำเร็จทุกๆท่าน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น